อัตราผลตอบแทน (Yield) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูง
ยิ่งลงทุนยาว ยิ่งมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น
เพราะอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับอายุของตราสาร
ความเสี่ยงต่ำ และมีความมั่นคงกว่าการลงทุนประเภทอื่นๆ
เพราะตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือ หุ้นกู้ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่จะจ่ายไว้ชัดเจน ทำให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนเหมือนการลงทุนในหุ้น
วงจรดอกเบี้ยขาขึ้นที่คาดว่าสิ้นสุดแล้ว
และมีโอกาสที่ ธปท. จะเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในระยะข้างหน้า ส่งผลเชิงบวกต่อตราสารหนี้ในภาพรวม จากการได้ Capital Gain
ลดความผันผวนให้พอร์ต
พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เมื่อลงทุนตามเงื่อนไข
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน K-FIXEDPLUS-A
K-FIXEDPLUS-A
ดัชนีชี้วัด
ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคครบวงจร ดำเนินธุรกิจห้างค้าปลีก Big C
ผู้นำตลาดเคมีภัณฑ์ในอาเซียน
ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง
ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน
จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)
มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน
อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย
ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ต่ำกว่า โดยมีระดับความเสี่ยง 4 เปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นที่ระดับ 6
ผลตอบแทนของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพบริษัท สภาพตลาดตราสารหนี้ หรือ การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทคุณภาพดี อันดับความน่าเชื่อถือสูง คือมีความมั่นคงกว่า
ดังนั้นความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้จึงต่ำและให้ผลตอบแทนน้อยกว่า ในทางกลับกัน ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ ผลตอบแทนจึงจะสูงกว่าเพื่อบวกค่าความเสี่ยงให้นักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ได้
แนะนำ 1 ปีขี้นไป
กองทุนมีการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว จึงอาจเกิดความผันผวนทำให้ผลตอบแทนติดลบได้ระยะสั้นๆ แต่ถ้าผู้ลงทุนถือกองทุนได้ในช่วงเวลาที่แนะนำคือ 1 ปีขึ้นไป คาดว่ากองทุนจะทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นโยบายการลงทุนเหมือนกัน เพียงแต่ K-FIXEDPLUS-SSF แยก class ออกมาเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี
ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้จัดการกองทุนต่อสภาวะตลาดการเงิน เช่น ผลตอบแทนและความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศดีกว่าในประเทศหรือไม่ รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของประเทศหรือบริษัทนั้นๆ ว่าดีมากน้อยเพียงใด
สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย
สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
- K-SFPLUS กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100%
- K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXEDPRO กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.kasikornasset.com