K WEALTH / บทความ / Wealth Management / ภาษี ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรมองข้าม
05 พฤศจิกายน 2564
2 นาที

ภาษี ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรมองข้าม


​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​“ 

● วัยสร้างครอบครัวที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างตึงตัว สามารถใช้ประโยชน์จากค่าใช้จ่ายและเงินลงทุน เพื่อลดภาระภาษี และเพิ่มเงินเก็บได้ 

● คนที่ยังอายุไม่เกิน 45 ปี แนะนำใช้สิทธิกองทุน SSF ก่อน ส่วนคนที่อายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป แนะนำใช้สิทธิ RMF ก่อน 

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​“ ​


          วัยมีครอบครัว เป็นวัยที่มีค่าใช้จ่ายสูง ไหนจะต้องดูแลลูก ดูแลคุณพ่อคุแม่ ไหนจะผ่อนบ้าน เก็บเงินเพื่อเกษียณ แถวยังต้องเสียภาษีก้อนโต ท่ามกลางภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ หากไม่จัดสรรเงินออมให้ดีในระยะยาว อาจจะทำให้มีเงินไม่พอใช้วัยเกษียณ ถึงแม้จะมีบ้านปลอดภาระ ส่งบุตรเรียนจบ ก็ตาม แต่เราสามารถใช้ประโยชน์จากค่าใช้จ่ายและเงินลงทุน เพื่อลดภาระภาษี แถมเพิ่มเงินเก็บได้ มาดูวิธีการกัน 

          1.ลดภาษีจากสถานะหรือค่าใช้จ่ายที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มประโยชน์ภาษีอีก 1 ต่อ ไม่ว่าจะเป็น ค่าลดหย่อนจากสถานะ เช่น ดูแลบุตร คนละ 30,000 บาท (บุตรคนที่ 2 และเกิดตั้งแต่ พ.ศ. 2561 คนละ 60,000 บาท) บุพการี คนละ 30,000 บาท ค่าลดหย่อนจากนโยบายรัฐ เช่น ดอกเบี้ยบ้าน หักตามจริง สูงสุด 100,000 บาท เงินบริจาค หักได้ตามจริง สูงสุด 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน เป็นต้น 

          2. ​ลดภาษีจากการออมและการลงทุน ถือเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อตนเอง หากเริ่มต้นออมอายุ 36 ปี เดือนละ 10,000 บาท (ปีละ 120,000 บาท) รายได้ตกฐานภาษี 20% (เงินคืนอย่างน้อยปีละ 24,000 บาท) นำไปลงทุนเสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง (ระดับ 5) ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี จะมีเงินประมาณ 6 ล้านบาท (จากเงินต้น 3 ล้านบาท) เมื่ออายุ 60 ปี หากนำเงินคืนภาษีอีกอย่างน้อยปีละ 24,000 บาท มาลงทุนเพิ่มอีก จะช่วยให้มีเงินออมมากกว่า 6 ล้านบาท (อายุ 60 ปี) อ่านมาถึงตรงนี้ ถามว่าปัจจัยที่สำคัญ ที่ช่วยบรรลุเงินออมได้ คือ ระยะเวลาลงทุน นั่นเอง ดังนั้น ดีที่สุดควรเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ 

               2.1 จะเลือกลดหย่อนอะไรดี ดูจากวัตถุประสงค์ในการออมเงิน และระยะเวลาถือครอง 
                    >> วัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองชีวิต แนะนำเลือกลดหย่อนโดยประกันชีวิต โดยมีอายุกรมธรรม์ตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
                    >> วัตถุประสงค์เพื่อออมลงทุน โดยมีอายุน้อยกว่า 45 ปี แนะนำให้เลือกลดหย่อนด้วยกองทุนเพื่อการออม (SSF) ให้เต็มสิทธิก่อน (ลดหย่อนสูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 200,000 บาท) หากต้องการลดหย่อนเต็ม Max ให้ใช้สิทธิลดหย่อนกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) (ลดหย่อนสูงสุด 30% ของเงินได้ ไม่เกิน 500,000 บาท) เป็นลำดับถัดไป 
                    หากมีตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป แนะนำให้เลือก กองทุน RMF เป็นลำดับแรก และหากยังต้องการลดหย่อนเต็ม Max ให้ใช้สิทธิในส่วนของกองทุน SSF เป็นลำดับถัดไป ทั้งนี้ เพื่อให้ระยะเวลาลงทุนไม่ให้นานเกินความจำเป็น 

Tips : กองทุนที่มีนโยบายจ่ายปันผล จะมีให้เลือกในกองทุน SSF เท่านั้น กองทุน RMF ไม่มีนโยบายจ่ายปันผล 
อย่าลืม เงื่อนไขลดหย่อนเต็ม Max ทั้ง SSF RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ/กบข. (กลุ่มเกษียณ) รวมกันได้ไม่เกิน 500,000 บาท 

              2.2 จะเลือกตัวไหนดี ดูจากผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้ 
              ในสภาวะตลาดหุ้นผันผวน ดอกเบี้ยก็น้อย อยากลงทุนได้สบายใจ ไม่กระทบแผนการเงิน ผลตอบแทนไม่หวือหวา แต่สม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง แนะนำให้ลงทุนในกองทุนผสมที่นอกจากจะประหยัดภาษีแล้ว และยังเน้นเพิ่มรายรับเฉลี่ยสม่ำเสมอ 4% ต่อปี เพราะไม่เสี่ยงเกินไป ได้กระจายการลงทุนไปทั่วโลก โดย 

              SSF กสิกรไทย แนะนำ K-GINCOME-SSF ที่เป็น SSF แบบผสมทั่วโลก ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยปรับสัดส่วนให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา เพื่อมุ่งหาสินทรัพย์ที่ให้รายได้สม่ำเสมอ กองทุนเดียวที่มีนโยบายจ่ายปันผล (ปีละไม่เกิน 4 ครั้ง) เหมาะกับคนที่อยากได้ผลตอบแทนระหว่างลงทุนยาว 10 ปี ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 14.67%* ต่อปี 

              RMF กสิกรไทย แนะนำ กองทุน K2035RMF สำหรับผู้ที่เกษียณอายุในปี ค.ศ. 2035 หรือ พ.ศ. 2578 หรืออีก 15 ปีข้างหน้า มีผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 5.72%**ต่อปี เน้นลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นทั่วโลก โดยเน้น กระจายลงทุนในกองทุนเพื่อวัยเกษียณที่ดีที่สุดในโลกตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป (Fund of funds) ทำให้กองทุนมีความยืดหยุ่น และมีการปรับสัดส่วนสินทรัพย์ให้อัตโนมัติตามช่วงอายุ (Glide Path) โดยในช่วงแรกจะเน้นลงทุนในหุ้นเพื่อให้เงินเติบโต และเมื่อขยับเข้าใกล้วันเกษียณอายุจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น เพื่อป้องกันเงินต้นและลดความเสี่ยงจากการขาดทุน ทำให้ลงทุนในกองทุน K2035RMF กองเดียวต่อเนื่องได้ทุกปีจนเกษียณด้วยโมเดลที่นิยมทั่วโลก ไม่ต้องปรับพอร์ตเอง 

         ทั้งนี้ เมื่อลงทุนในกองทุนเพื่อการออม (SSF) หรือ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สามารถสับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนได้ หรือหากกังวลว่าจะเป็นการลงทุนระยะยาวไป เลือกกองทุนที่มีนโยบายจ่ายปันผลเพื่อคืนผลตอบแทนในบางส่วนก่อนก็ได้ 

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี เป็นฤดูกาลของการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี​ หากมองว่าราคาสูงไป หรือ ตลาดยังผันผวนอยู่ จึงยังลังเลในการเริ่มต้น ขอแนะนำให้เลือกกองทุนลดหย่อนภาษีที่มีความเสี่ยงต่ำก่อน เช่น กองทุน K-FIXEDPLUS-SSF หรือ กองทุน KFIRMF ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ ไปก่อน แล้วสับเปลี่ยนกองทุนอื่นๆในปีถัดไป เพื่อให้ไม่พลาดการลดหย่อนภาษีในปีนี้และตัดสินใจเริ่มออมได้ทันที ​
Disclamer : “ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน” 
หมายเหตุ * ข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2564 
                 ** ข้อมูลผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2564 (เป็นระยะยาวที่สุดตั้งแต่จัดตั้งกองทุน) ขอขอบคุณข้อมูลจาก บลจ.กสิกรไทย ​
บทความโดย K WEALTH GURU สุนิติ ถนัดวณิชย์ (CFP®)
KBank LIVE
 

ติดตามข่าวสารการเงินจาก
K WEALTH ฟรี!

ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำ

​​​ผลตอบแทนระดับท๊อป ตอบโจทย์ทุกเทรนด์​

ดูเพิ่มเติม